อย.เผยพบผู้ป่วยใช้ “น้ำมันกัญชา” เกินขนาดหลายคน จนประสาทหลอน ต้องหามฉุกเฉินส่งโรงพยาบาล ย้ำกัญชาไม่ใช่ยาครอบจักรวาล น้ำมันกัญชาเกินขนาด ป่วยจิตเวช – วันที่ 24 พ.ค. ยังเป็นข้อถกเถียงทางการแพทย์ถึงการใช้กัญชากับการรักษาโรค ไม่ว่าจะเป็นวิธีกระบวนการของการสกัด หรือรูปแบบและปริมาณของการนำมาใช้ จนไปถึงเสียงเรียกร้องให้เปิดกัญชาเสรี แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นทำให้เราต้องกลับมาระมัดระวังถึงโทษของการใช้กัญหาหากใช้ไม่ถูกวิธี หลังนพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า หลายโรงพยาบาลพบผู้ป่วยที่ทดลองใช้น้ำมันกัญชาเกินขนาด ถูกหามส่งห้องฉุกเฉินเพิ่มสูงขึ้น กัญชาไม่ใช่ยาวิเศษรักษาโรคได้ครอบจักรวาล มิหนำซ้ำอาจส่งผลข้างเคียง เช่น คนที่ป่วยโรคความดันโลหิตสูงน้ำมันกัญชาจะทำให้ความดันตก
อย่างเคสกรณีตัวอย่างของผู้ป่วยชายไทยอายุ 28 ปี
ที่นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจนำมาเล่าให้ฟังว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวมีปัญหานอนไม่หลับและดื่มแอลกอฮอล์ทุกวัน ไม่เคยใช้กัญชามาก่อน เพิ่งไปรับน้ำมันกัญชาครั้งแรกมา 1 ขวด เที่ยงคืนแล้วยังนอนไม่หลับ จึงทดลองหยดน้ำมันกัญชาใต้ลิ้นรวมแล้วประมาณ 40 หยด ประมาณ 2 มิลลิลิตร จนมีอาการประสาทหลอน พูดไม่ชัด ลิ้นแข็ง แขนขาเกร็ง คลื่นไส้อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว ตรวจเลือดเม็ดเลือดขาวในเลือดขึ้นสูง 20, 100
และสิ่งที่ผู้ใช้กัญชาเกินขนาดต้องรู้คือ ตอนนี้ไม่มียาต้านพิษกัญชาโดยตรง หากมีอาการอย่างไรทำได้เพียงรักษาประคับประคองไปตามอาการ ถึงแม้ไม่มีรายงานว่ากินน้ำมันกัญชาเกินขนาดถึงตาย แต่ก็ทำให้ป่วยนอนโรงพยาบาลได้ ด้าน นพ.เพชร อลิสานันท์ แพทย์รังสีรักษาและมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า อยากให้มีการทบทวนการใช้กัญชาให้ดี อย่ามองว่ากัญชาคือยาวิเศษ กัญชาก็เหมือนยาตัวหนึ่ง ต้องผลักดันให้ผ่านตามขั้นตอนปกติและเป็นไปตามกฎหมาย
หญิงชาวเวียดนามดิ่งโรงแรมดังพัทยาจากชั้น 5 แพทย์ยื้อชีวิตไม่ได้ : ข่าวพัทยา ชลบุรี เมื่อเวลา 01.30 เช้าของวันที่ 24 พ.ค. เกิดเหตุสลด นางสาว DANG THI ANH VAN อายุ 25 ปี ชาวเวียดนาม ซึ่งพักอยู่ที่ ที่ชั้น 5 ห้อง 515 กระโดดลงมาจากชั้น 5 โรงแรมอาร์ คอน แอด สยาม โฮเทล ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ภายใต้พื้นที่ สภ. พัทยา นางสาว DANG THI ANH VAN ไม่ได้เสียชีวิตทันทีในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ปฐมพยาบาลก่อนส่งโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา
พยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ในขณะที่ตนเองล้างจานอยู่ในตลาดใกล้เคียงกับโรงแรม เห็นผู้ตายนั่งอยู่ริมระเบียง แล้วก็ยืนขึ้นแล้วกระโดดลงมาจริงๆ อย่างที่ตนคิดกลัวในใจ และต่อมาก็มีคนโทรเรียกหน่วยกูภัย เบื้องต้นยังไม่ระบุสาเหตุแรงจูงใจมาจากสาเหตุใด จะต้องสอบสวนหารายละเอียดให้แน่ชัดก่อนสรุปคดี
คุณปู่ขายล็อตเตอรี่ที่ดูธรรมดา แต่พอเห็นเหรียญที่ติดบนหน้าอก ถึงกับผงะ
ผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพชายแก่นั่งขายล็อตเตอรี่อยู่บนสะพานลอย ซึ่งดูเผินๆก็เหมือนคนขายล้อเตอรี่ทั่วไป แต่เมื่ออ่านชื่อที่ปักอยู่บนเสื้อ และเหรียญที่ติดอยู่บนเสื้อก็ถึงกับตจ้องร้องว้าว โดยในโพสต์มีข้อความระบุว่า “พบวีรชน”
นนี้มีกิจธุระที่ห้างสรรพสินค้าพันธุ์ทิพย์พลาซา สาขางามวงศ์วาน เสร็จเรียบร้อยก็เดินออกมาจะข้ามสะพานลอยไปขึ้นรถอีกฟากฝั่งถนน ขณะข้ามสะพานลอย เห็นชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่บนพื้นริมทางเดิน เบื้องหน้าชายชราผู้นั้นมีแผงสลากกินแบ่งรัฐบาลวางอยู่ ก็เพียงแต่นึกในใจว่าเสื้อทหารสหรัฐที่สวมอยู่นั้นสวยดี
จนเมื่อเดินผ่านหน้า ก็เหลือบไปเห็นเหรียญชัยสมรภูมิสงครามเกาหลี กับเหรียญตราที่เกี่ยวข้องบนอกเสื้อท่าน ประเมินวัยแล้ว จึงคิดว่าท่านคงจะเป็นทหารผ่านศึกแห่งสมรภูมิเกาหลีเป็นแน่แท้ อย่ากระนั้นเลยขอแวะสอบถามสักหน่อย ผมได้นั่งพูดคุยกับท่านบนสะพานลอย ท่านอายุถึง๙๒ ปีแล้ว เป็นทหารผ่านศึกสงครามเกาหลี ผลัดที่๒ (น่าจะราวปี๒๔๙๓-๙๔)มียศเป็นพลทหาร เท่าที่ผมสังเกต เรี่ยวแรง สายตา และความทรงจำของท่านยังดีมาก แต่ต้องพูดกับท่านเสียงดังสักนิด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้สูงอายุวัยนี้ ผมตกใจเมื่ออ่านชื่อของท่านที่ปักอยู่บนอกเสื้อ
“อรุณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา” เพราะท่านเป็นผู้เนื่องในราชสกุล “เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา” ผู้สืบสายเลือดนักรบมาจาก องค์ต้นราชสกุล พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าแตง กรมหลวงเสนีย์บริรักษ์ ผู้ทรงเป็นแม่ทัพใหญ่ในรัชกาลที่๓ นำทัพออกศึกเวียงจันทน์ พระอัฐิท่านประดิษฐานในเจดีย์ที่วัดระฆังโฆษิตาราม ฝั่งธนบุรี เคยไปกราบหลายหน ราชสกุลนี้มีนายทหารใหญ่โตสืบสายต่อมามากมายหลายท่าน
“คุณปู่ราชสกุลเสนีย์วงศ์หรือครับ” ผมถาม “ใช่ เสนีย์วงศ์ แต่สกุลอะไรก็เหมือนกันแหละอยู่ที่ทำความดี เป็นประชาธิปไตยแล้ว เหมือนกันหมด เท่ากันหมด มีเว้นแต่พระเจ้าอยู่หัว พระราชวงศ์ที่ต้องเทิดทูน”
คำตอบดังกล่าว เป็นคำตอบที่ยิ่งใหญ่มากในความรู้สึกผม และทำให้ผมอึ้งไปชั่วครู่ทีเดียว เท่าที่พูดคุยชีวิตคุณปู่อรุณค่อนข้างยากลำบาก ท่านอยู่กับลูกชายอีกคน ภรรยาเสียไปเเล้ว ผมไม่ได้ถามลึกมากไปกว่านั้นแม้จะมีอีกหลายคำถามในใจ
สิ่งที่ผมรู้สึก และเชื่อว่าหลายท่านที่อ่านก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกัน คือ นี่หรือคือความเป็นจริงของชีวิตทหารผ่านศึก สิ่งที่เราได้ยิน คำยกย่องเชิดชูเกียรติกันต่างๆนานาในวันทหารผ่านศึกนั้น อาจเป็นเพียงวาทกรรมสวยงามที่พูดให้ผ่านพ้นไปปีๆหนึ่งเท่านั้น