เปิดตัวไปพร้อมกับความว้าว สำหรับเจ้า Oneplus 7 pro ที่อัดสเปคให้มาแบบจัดเต็ม ไม่มีกั๊ก พร้อมราคาที่ค่อนข้างสูงขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Oneplus 6T อยู่พอสมควร แล้วถามว่าสเปคของเจ้า 7 pro กับ 6T มีความแตกต่างกันขนาดไหน ไปดูกัน
เผยราคาไทย Oneplus 7 pro คุ้มหรือเปล่ากับราคาเริ่มที่ 2x,xxx บาท
หลังจากที่ Oneplus ได้จักอีเว้นท์เปิดตัวมือถือเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด Oneplus 7 pro ไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมกับอวดสเปคกันแบบจัดเต็มไม่มีกั๊ก ทั้งชิพเซ็ต Snapdragon 855 จอ Fluid AMOLED แบบ Quad HD+ ที่ 516 ppi ความกว้าง 6.67 นิ้ว แบบไรขอบ RAM ที่ยัดมาให้สงสุดถึง 12 GB ไหนจะ Gaming Mode พร้อมระบบเสียงแบบ Dolby ATMOS กล้องหลังสามตัว ที่ความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล กล้องหน้าแบบป็อบอัพ พร้อมแบ็ตเตอรี่ 4000 mAh แถมชาร์จไวอีกต่างหาก เรียกได้ว่า จัดเต็มกันจริงๆ
สำหรับ Oneplus ที่ได้ฉายานักฆ่าเรือธงก็มาจากการที่ใส่สเปคให้มาแบบไม่อั้นในราคาที่ถูกกว่าเรือธงของค่ายอ่านๆเกือบครึ่ง โดยก่อนหน้าเจ้า Oneplus 6T ก็เคยเปิดตัวไปที่ราคาเริ่มต้น 549 เหรียญสหรัฐฯ โดยราคาไทยอย่างเป็นทางการในรุ่นเริ้มต้นนั้นอยู่ที่ 18,990 บาท และท็อปสุดที่ 22,999 ซึ่งเมื่อเทียบกับค่ายยักษ์ใหญ่อื่นๆ ถือว่าถูกเลยทีเดียว
แต่ครั้งนี้ เจ้า Oneplus 7 pro เกิดตัวด้วยราคาที่สูงขึ้น โดยราคาเริ่มต้นที่ 669 เหรียญสหรัฐฯ โดยราคาในไทยเริ่มต้นที่ 24,990 บาท และรุ่นท็อปสูดที่ราคา 29,990 บาท กับสเปคที่จัดมาแบบเต็มๆขนาดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้แล้วแหละครับที่จะตัดสินใจว่า Oneplus 7 pro คุ้มหรือไม่
รถตู้วงดนตรีชื่อดัง ประสบอุบัติเหตุชนรถท้ายกระบะบรรทุกปาล์ม กระเด็นตกถนน วันที่ 23 พ.ค.62 ร.ต.อ.ธีระวุฒิ เชื้อจักร์ รอง สว.สอบสวน สภ.ปลายพระยา จ.กระบี่ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถตู้ชนกับรถบรรทุกปาล์ม มีผู้บาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบนถนนเซาเทินซีบอร์ด ม.7.ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 33-34 ขาเข้า อ.อ่าวลึก ในที่เกิดเหตุ พบรถตู้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฮต.4414 กรุงเทพมหานคร ตกในคูระบายน้ำ สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ภายในห้องโดยสาร ช่วงเบาะนั่งคนขับ พบร่างของนายสมนึก เมืองทอง อายุ 43 ปี บ้านอยู่ เขตมีนบุรี กทม. สภาพขาซ้ายติดในรถไม่สามรถออกมาได้ แต่ยังรู้สึกตัวดี เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดต่างงัดร่าง คนเจ็บออกมา อย่างทุกลักทุเล ก่อนนำตัวส่งรพ.ปลายพระยา
ใกล้กันพบรถยนต์กระบะบรรทุกผลปาล์ม แบบตอนเดียวมีรั้วเหล็ก ยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ หมายเลขทะเบียน บบ.7342กระบี่ จอดในสภาพตะแคง หลังคารถพิงกับรถตู้ ส่วนคนขับกระบะ ทราบชื่อต่อมาคือนายนิยม สังข์ทอง อายุ 55ปี อยู่บ้านเลขที่370 ม.7 ต.ปลายพระยา ได้ออกมาจากรถได้ก่อนหน้านี้ แต่มีอาการ แน่หน้าอก เจ้าหน้าที่ทำการปฐมพยาบาลก่อนนำส่งรพ.ปลายพระยา เบื้องต้นทั้งสองอาการปลอดภัย
สอบสวน เบื้องต้นทราบว่า ช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุนายสมนึก ได้ขับรถตู้รถคันดังกล่าวซึ่งบรรทุกเสื้อผ้า ของคณะวงดนตรีโปเตโต้ ซึ่งมีกำหนดเดินทางไปเล่นดนตรี ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองกระบี่ ในคืนนี้ โดยมีรถกระบะที่นายนิยมขับอยู่ได้นำหน้า แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถตู้ได้เกิดเสียหลังกพุ่งชนท้ายรถกระบอย่างจัง จนกระเด็นไปตกในคูระบายน้ำทั้งสองคัน เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา
ระทึก! ลูกขวบครึ่งติดในรถนานครึ่งชม. เพราะเล่นไปโดนปุ่มล็อก โชคดีเจอช่างกุญแจผ่านมา
เมื่อเช้าวันนี้ (24 พ.ค) เกิดเหตุเด็กน้อยวัยขวบครึ่งติดอยู่ในรถกระบะของพ่อนานถึงครึ่งชั่วโมง เพราะเล่นไปโดนปุ่มล็อกตัวเองไว้ข้างในขณะที่ผู้เป็นพ่อกำลังทำธุระในปั๊มน้ำมันปตท.สวัสดิการกองบิน 23 ในจ.อุดรธานี
ผู้เป็นพ่ออายุ 45 ปีได้ขอให้พนักงานปั๊มช่วยเหลือ ผู้จัดการปั๊มจึงติดต่ออาสากู้ภัยพร้อมด้วยตำรวจจราจร โดยทั้งหมดได้พยายามช่วยกันงัดรถกระบะคันดังกล่าวที่ติดเครื่องยนต์ เปิดแอร์และเพลงไว้ โดยใช้อุปกรณ์สอดไปทางกระจกแค็ปด้านหลังฝั่งคนขับ แต่ไม่สามารถเปิดออกได้ เนื่องจากเด็กอยู่ไม่นิ่ง บางจังหวะก็ฟ้อนรำตามเพลงที่เปิดอยู่ตามประสา หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง นายนริศ สุทธิชัยวัฒน์ อายุ 38 ปี หรือ ช่างน้อย ก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์พร้อมด้วยอุปกรณ์ผ่านมาพอดี จึงได้เข้ามาช่วยเหลือและสามารถปลดล็อกประตูได้ภายในไม่ถึง 3 นาที
ไทยเบฟ ได้สิทธิ์ร่วมทุนบริษัทฮ่องกงทำ สตาร์บัคส์ ในไทย สตาร์บัคส์ เชนร้านกาแฟยักษ์ใหญ่ของโลกจากสหรัฐอเมริกา ได้ออกแถลงการณ์มอบใบอนุญาตประกอบกิจการร้านกาแฟสตาร์บัคส์ในประเทศไทยให้แก่ บริษัท คอฟฟี่ คอนเซปต์ ไทยแลนด์ จำกัด (Coffee Concept Thailand) หรือ CCT ซึ่ง CCT นี้เป็นการร่วมทุนของบริษัทสัญชาติฮ่องกงอย่าง Maxim’s Caterers และ F&N Retail Connection ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของไทยเบฟ
ทั้งนี้ Maxim’s Caterers เองนั้นเป็นหนึ่งในผู้ถือสิทธิ์บริหารสตาร์บัคส์อยู่ก่อนแล้วในหลายประเทศ เช่น กัมพูชา เวียดนาม สิงคโปร์ ฮ่องกง และมาเก๊า รวมกว่า 400 สาขา ส่วนไทยเบฟของ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี นั้นก็สนิมสนมกันดีกับทาง Maxim’s Caterers และทำธุรกิจด้วยกันมาก่อน จึงไม่น่าแปลกใจที่บริษัทร่วมทุนของทั้งสองฝ่ายจะได้รับสิทธิ์ขาดในการบริหารจัดการและขยายสาขาร้านสตาร์บัคส์ทั่วไทยไปได้อย่างไม่ยากเย็น